หัวข้อข่าว
        การประชุมผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 3/2566 รมว.ทส.สั่งการ “ติดตามทุกสถานการณ์เชิงรุก เตรียมพร้อมรับมือ แก้ไขปัญหาให้ประชาชน”
รายละเอียด
       
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 3/2566 พร้อมด้วย ร้อยเอก รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วย รมว.ทส. นายนพดล พลเสน เลขานุการ รมว.ทส. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ ตลอดจนผู้บริหารระดับสูง และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน และความก้าวหน้าการดำเนินงานตามข้อสั่งการ รอบ 2 เดือน (เดือนกันยายน - ปัจจุบัน) โดย ดร.ปวิช เฉลิมวัฒน์ ผู้อำนวยการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ มอบหมายให้ นางสาวเกศินีกานต์ เอกกิตติธนภูมิ รักษาการผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมความรู้และกิจการพฤกษศาสตร์ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 202 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรุงเทพฯ พล.ต.อ.พัชรวาท ได้ติดตามพร้อมเร่งรัดการดำเนินงานของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงฯ ตามนโยบายรัฐบาล ให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยเฉพาะการเตรียมรับมือสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ให้เร่งจัดประชุมคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน และแต่งตั้งคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมป่าไม้ จัดเตรียมกำลังพล อุปกรณ์ เครื่องมือให้พร้อมรับมือ หากเกิดความรุนแรงของสถานการณ์ในพื้นที่ต้องสามารถเข้าสนับสนุนได้ทันที รวมถึงให้กรมควบคุมมลพิษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเชิงรุกในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยประสานและทำงานร่วมกับทุกส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ห้ามไม่ให้มีการเผาอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท ยังได้สั่งการให้กรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรน้ำบาดาล วางแผนช่วยเหลือประชาชนในช่วงภัยแล้งไม่ให้ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกพระราชบัญญัติที่สำคัญ อาทิ พ.ร.บ.อากาศสะอาด พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ พ.ร.บ.ความหลากหลายทางชีวภาพ เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2566 พลางก่อน และเตรียมการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2568 รวมถึงเร่งรัดการแก้ไขปัญหากลุ่มมวลชนที่มีการเรียกร้องต่อรัฐบาล โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาที่ดินในเขตป่า ในส่วนของการเตรียมรับนักท่องเที่ยว หลังจากที่ได้ลงตรวจเยี่ยมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้องค์การสวนสัตว์ดูแลปรับปรุงสภาพแวดล้อม พร้อมดูแลสุขภาพสัตว์ รวมถึงดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และส่งเสริมกิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้น ส่งเสริมให้เยาวชนและนักเรียนเข้ามาศึกษาเรียนรู้และเยี่ยมชมสวนสัตว์ให้มากขึ้น ทั้งนี้ ในช่วงท้ายของการประชุม ยังได้สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เร่งแก้ไขปัญหาอีกัวน่า รวมถึงปัญหาช้างป่า และลิง ที่สร้างความเดือดร้อนกับประชาชนพร้อมดูแลเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป